Time | Description |
---|---|
06:00 | ปล่อยตัวนักวิ่ง 12 KM. |
06:15 | ปล่อยตัวนักวิ่ง 4 KM. |
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเร็วๆ นี้
Facebook : https://www.facebook.com/uthaifunrun/
Grace ilint Resort ในอุทัยธานี สร้างขึ้นเมื่อปี และเป็นตัวเลือกชั้นยอดสำหรับนักเดินทางทุกท่าน เนื่องจากที่พักระดับ 2.5 ดาวแห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง และห่างจากสนามบินเพียง นักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงเดินทางมาพักที่นี่ทุกปี ด้วยโลเคชั่นที่ยอดเยี่ยม ผู้เข้าพักจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ของเมืองได้อย่างสะดวกง่ายดาย
💰 ราคาเริ่มต้นคืนละ 785++ บาท
🌍 ที่อยู่ 50 ่หมู่ 4 ทางหลวง 3183 ตำบลน้ำซึม อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี,
Ruanmai Style Resort 1 ตั้งอยู่ในบ้านหนองน้ำขุ่น ที่พักให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) ฟรี และห้องพักแต่ละห้องมีระเบียง ห้องพักทุกห้องมีตู้เย็น ที่พักมีบริการอาหารเช้าแบบอาหารจานเดียว รีสอร์ทตั้งอยู่ห่างจากจังหวัดชัยนาท 23 กิโลเมตร
💰 ราคาเริ่มต้นคืนละ 935++ บาท
🌍 ที่อยู่ 5287 ถนนสาย 333 อุทัยธานี-หนองขาหย่าง, เมืองอุทัยธานี, อุทัยธานี, ประเทศไทย, 61000
Ruanmai Style Resort 2 ตั้งอยู่ในบ้านหนองน้ำขุ่น ที่พักแห่งนี้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) ฟรี บริการพนักงานจอดรถ ห้องอาหาร และบริการรับส่งสนามบิน ห้องพักที่ Ruanmai Style Resort 2 มีโทรทัศน์จอแบน ห้องพักบางห้องมีวิวแม่น้ำและมีระเบียง ห้องพักมีเครื่องปรับอากาศและตู้เสื้อผ้า Ruanmai Style Resort 2 มีบริการอาหารเช้าแบบอาหารจานเดียว รีสอร์ทตั้งอยู่ห่างจากจังหวัดชัยนาท 23 กิโลเมตร
💰 ราคาเริ่มต้นคืนละ 1,402++ บาท
🌍 ที่อยู่ 20 Moo.2, Koh Tepo, Muang, Uthaithani, เมืองอุทัยธานี, อุทัยธานี, ประเทศไทย, 61000
วัดท่าซุง หรือ วัดจันทาราม วัดขึ้นชื่อเรื่องความงามของจังหวัดอุทัยธานี และเป็นหนึ่งในวัดที่สวยที่สุดในประเทศไทย เป็นวัดเก่า แต่ก็ได้มีการบูรณะเรื่อยมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มีรูปหล่อหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อใหญ่ขนาด 3 เท่า อยู่มุมกำแพงด้านหน้า มณฑป และพระวิหารแก้วที่ประดิษฐาน พระพุทธชินราชจำลอง และศพของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อย ไฮไลท์ความงามของที่นี่ต้องยกให้ “วิหารแก้ว 100 เมตร” ที่ตกแต่งด้วยโมเสกแก้วเล็กๆทั้งวิหาร ทำให้ดูแวววับจับตา
อ่านเพิ่มเติม : 10 วัดสวยในเมืองไทย
หุบป่าตาด ตั้งอยู่ในอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ขึ้นชื่อว่าเป็น ดินแดนจูราสสิคเมืองไทย ชมความมหัศจรรย์ของผืนป่าดึกดำบรรพ์ บริเวณโดยรอบของหุบป่าตาดนี้เป็นระบบนิเวศค่อนข้างปิดเนื่องจากมีทางเข้าออก ทางเดียว แสงแดดจะส่องถึงเฉพาะช่วงเวลาเที่ยงวันเท่านั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักผจญภัยลิสไว้ว่าต้องมาให้ได้ เป็นอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยว Unseen ของเมืองไทยอีกด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนเราเข้าไปอยู่ในยุคจูราสิคอย่างงั้นเลย
ไฮไลท์สำคัญของหุบป่าตาด ได้แก่ “ต้นตาด” ที่เป็นพืชตระกูลปาล์มดึกดำบรรพ์ที่พบมากในบริเวณหุบเขาหินปูนนี้ และ “กิ้งกือมังกรสีชมพู” สัตว์หายากของโลกที่ในประเทศไทยสามารถพบเห็นได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ซึ่งหุบป่าตาดจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น.
อ่านเพิ่มเติม : 8 ที่เที่ยว Unseen ในเมืองไทย
วัดสวย แปลกตา ลำดับถัดไป ที่เราอยากให้คุณหาโอกาสไปเยี่ยมชมให้ได้ ากมองจากภาพถ่ายเชื่อว่าหลายคนคงคิดว่า เป็นรีสอร์ทสวยๆ ที่ไหนสักแห่ง แต่ความจริงแล้วที่นี่คือ “วัด” โดยวัดแห่งนี้เป็นอาคาร 4 ชั้น ออกแบบลักษณะเรือนไทย ยกใต้ถุน แบ่งสัดส่วนการใช้งานเป็น 4 ส่วน คือ ใต้ถุนเป็นลานเอนกประสงค์และร้านขายของ , ชั้นที่ 2 เป็นวิหาร , ชั้นที่ 3 เป็นกุฏิ และ ชั้นที่ 4 จะเป็นโบสถ์สร้างด้วยไม้สัก และไม้มะค่า
มีความงดงามมาก บริเวณโดยรอบก็มีการจัดภูมิทัศน์ให้สวยงาม ร่มรื่น มีฉากหลังเป็นเขาหินปูนสูงตระหง่าน บริเวณด้านหน้ามีสวนไม้ดัด และบ่อน้ำซึ่งมีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ห่างจากตัววัดไปทางด้านหลังจะมีถ้ำอยู่ประมาณ 7-8 ถ้ำ บางถ้ำเป็นที่นั่งวิปัสสนาสำหรับพระภิกษุ บางถ้ำเป็นถ้ำค้างคาว และบางถ้ำก็มีหินงอกหินย้อยให้ชมกัน ระหว่างทางเดินที่จะขึ้นไปชมถ้ำ จะผ่านน้ำตกเทียมที่ดูเข้ากับบรรยากาศ เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้ จะรู้สึกปลอดโปร่ง ทั้งจากใจที่สงบจากการทำบุญ และจากกายที่ได้พักผ่อนเหมือนมาตากอากาศในรีสอร์ท
อ่านเพิ่มเติม : 10 วัดสวยในเมืองไทย
เมืองอุไทยธานีเป็นเมืองที่อยู่บนที่ดอน ไม่มีแม่น้ำสายใหญ่ ในอดีตจึงต้องค้าขายกันโดยการพายเรือ ชาวเมืองต้องขนข้าวบรรทุกเกวียนมาลงที่แม่น้ำ จึงทำให้พ่อค้าพากันไปตั้งยุ้งฉางรับซื้อข้าวที่ริมแม่น้ำจนเป็นหมู่บ้านใหญ่ เรียกว่า “หมู่บ้านสะแกกรัง” เนื่องจากเป็นพื้นที่มีป่าสะแกขึ้นเต็มริมน้ำ และมีต้นสะแกใหญ่อยู่กลางหมู่บ้าน
หาเรามาเยือนที่แห่งนี้ก็จะได้ชมภาพชีวิตของชาวแพ ซึ่งได้สร้างบ้านคร่อมไว้บนแพลูกบวบไม้ไผ่ และตลอดลำน้ำยังจะได้เห็นการปลูกพืชผักลอยน้ำที่สวยงาม โดยเฉพาะเตยแพ และพุทธรักษาที่ชาวบ้านปลูกไว้อย่างมากมาย รวมไปถึงการเลี้ยงปลาในกระชังที่ทำกันทุกแพ และที่ถือว่าเป็นความโดดเด่นของแม่น้ำสายนี้ ได้แก่ ปลาแรดที่มีรสชาติดีกว่าแหล่งอื่น ๆ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรจึงมีการทำประมงน้ำจืดจำนวนมาก และในบางฤดูจะมีกุ้งแม่น้ำขนาดใหญ่ ให้กับคนท้องถิ่นได้ตกขึ้นมาเป็นอาชีพเสริมมีรายได้ดี
เที่ยว ถนนคนเดิน ตรอกโรงยา หรือ เซ็กเกี๋ยกั้ง ไปสัมผัสผู้คนในชุมชนที่ยังคงผูกพันกับวีถีชีวิตในอดีต เสน่ห์ของที่นี่ก็คือ บ้านเรือนไม้เก่าๆ ที่ทุกวันเสาร์ บนถนนสายเล็กๆ แห่งนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างพากันมาเดินเที่ยว กินอาหารอร่อยๆ ขึ้นชื่อของเมืองอุทัยฯ ผู้คนในชุมชนจะเปิดบ้านชาวจีนในสมัยก่อนหลายหลัง รวมถึงมีการเล่าถึงประวัติของตรอกโรงยาในสมัยก่อน ให้นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ได้ทราบกัน นอกจากจะอิ่มความรู้กันแล้ว แถมยังได้ช๊อบของฝากเล็กๆ น้อยๆ กลับมาฝากคนที่บ้านอีกด้วยนะ
อ่านเพิ่มเติม : เที่ยว ตรอกโรงยา ถนนสายวัฒนธรรม จังหวัดอุทัยธานี
ร้านนี้นอกจากจะขายกาแฟสด น้ำสมุนไพรต่างๆแล้ว ยังเรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สะสมของเก่าแห่งเมืองอุทัยได้อีกด้วย
ขอบคุณรูปภาพ https://www.facebook.com/travelwithmonjuk
มีคุณป้าจันทิตาและคุณลุงไพศาลเป็นเจ้าของ คุณลุงเล่าว่าแต่ก่อนที่ตรงนี้เป็นบ่อปลา ต่อมาก็เริ่มถมที่และปลูกต้นไม้ ซึ่งต้นไม้ทุกต้นที่นี่คุณลุงไพศาลเป็นคนปลูกเองทั้งหมด ใช้เวลาเกือบ 30 ปี! เมื่อนำพื้นที่ตรงนี้มาทำเป็นโฮมสเตย์ ก็สร้างโดยการปลูกแทรกตามต้นไม้ โดยไม่ตัดต้นใดทิ้งแม้แต่ต้นเดียว ^^
บ้านสวนจันทิตา เป็นที่พักโฮมสเตย์ แบบบ้านไม้ 4 หลัง ตั้งแทรกอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ เชื่อมต่อกันทั้งหมด 4 หลัง ซึ่งบ้านแต่ละหลังจะมีความสูงไม่เท่ากัน เพราะอยากให้ดูมีมิติ และระบายอากาศได้ดี ภายในบ้านฌปร่งสบาย เน้นเจาะหน้ารอบบ้านแบบให้เราเห็นธรรมชาติได้แบบพาโนรามาด้วย อีกทั้งโดยรอบๆ บรรยากาศร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานาชนิด และที่พักราคาไม่แพงด้วย เพียงหลังละ 2,000 บาทเท่านั้น แต่ถ้าอยากมาพักผ่อนที่นี่ต้องจองล่วงหน้ากันยาวสักหน่อย ^^
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก https://travel.mthai.com/blog/
มีรถประจำทางปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-อุทัยธานี ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ทั้งรถโดยสารแบบธรรมดาและปรับอากาศ