Time | Description |
---|---|
06:00 | ปล่อยตัวนักวิ่ง 10 KM. |
06:10 | ปล่อยตัวนักวิ่ง 5 KM. |
06:10 | ปล่อยตัวนักวิ่ง 3 KM. |
งานวิ่งย้อนอดีต แต่งไทยมาวิ่ง (ฟรี) วันที่จัดงาน: 15 เมษายน 2561 รายงานตัวรับเบอร์ ตั้งแต่ 04:00 น. ปล่อยตัวระยะ 10.5 กิโลเมตร เวลา6.00 น. สถานที่จัดงาน: อุทยานสวรรค์อ่างทองหนองเจ็ดเส้น งานวิ่งย้อนอดีต แต่งไทยมาวิ่ง จัดเพื่อให้คนรักสุขภาพ มีของที่ระลึกให้คนที่แต่งแฟนตาซีมาทุกคนและให้รางวัลอันดับ 1-5 ของผู้แต่งไทยสวยงาม ในแต่ละระยะ รับสมัครจำนวนนักวิ่ง 1500 ท่าน ในระยะมินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร , ฟันรัน 5 กิโลเมตร และ เดินวิ่ง 3 กิโลเมตร
Facebook : https://www.facebook.com/ก้าวของคนอ่างทอง
บัวหลวงบูติครีสอร์ทเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวและเสียงของอ่างทอง จากที่นี่ผู้เข้าพักสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากสิ่งที่เมืองอันคึกคักมีให้ สิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรูและไมตรีจิตอันดีจะสร้างความประทับใจให้แขกที่มาพักที่โรงแรมแห่งนี้อย่างแน่นอน
💰 ราคาเริ่มต้นคืนละ 598++บาท
🌍 ที่อยู่ 66 Liab Klong Chonpratharn road, Phosa, Mueang, Ang Thong,
บ้านบุศรินทร์ อพาร์ทเม้นต์ เป็นที่พักอันยอดเยี่ยมสำหรับผู้ไปเยือนสิงห์บุรี ไม่ว่าจะเพื่อพักผ่อนท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจ ตัวเมืองอันน่าตื่นตาตื่นใจอยู่ห่างจากที่พักไปเพียง เนื่องจากที่พักตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ผู้เข้าพักจึงไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ของเมืองได้โดยง่าย
💰 ราคาเริ่มต้นคืนละ 278++ บาท
🌍 ที่อยู่ 190/39 หมู่ 7 ตำบลบางมัญ, สิงห์บุรี, สิงห์บุรี, ประเทศไทย, 16000
โรงแรม เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งตั้งอยู่ในการออกไปลิ้มชิมรสอาหาร, กิจกรรมทางวัฒนธรรม, กิจกรรมทางศาสนาของสิงห์บุรี เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายหลังจากวันอันแสนวุ่นวาย เนื่องจากที่พักระดับ 3 ดาวแห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 2 km และห่างจากสนามบินเพียง นักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงเดินทางมาพักที่นี่ทุกปี เนื่องจากที่พักตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ผู้เข้าพักจึงไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ของเมืองได้โดยง่าย
💰 ราคาเริ่มต้นคืนละ 878++ บาท
🌍 ที่อยู่ 172/2 หมู่ 1 ต.บางมัญ, สิงห์บุรี, สิงห์บุรี, ประเทศไทย, 16000
พระตำหนักคำหยาด นั้นตั้งอยู่ที่อำเภอโพธิ์ทอง ถือว่าเป็นสถานที่เที่ยวจังหวัดอ่างทอง เเห่งใหม่ที่ถูกคนพบได้ไม่นานนักเเต่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เเละมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งอีกเเห่งที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งได้เป็นอย่างดี โดยตัวพระตำหนักนั้นโดดเด่นอยู่กลางทุ่งนา ยังมีผนังเหลืออยู่ทั้ง 4 ด้าน เป็นเเบบก่ออิฐถือปูนขนาดความกว้าง 10 เมตรเเละยาว 20 เมตร มีจำนวนสองชั้นด้วยกัน เเละมีบันไดสามารถขึ้นไปได้ถึงชั้นด้านบน ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นไม้เเต่ได้พังไปหมดเเล้ว นอกจากนี้เเล้วยังลวดลายที่มีความสวยงามตกเเต่งอยู่มากมาย ส่วนภายในมีการทาดินเเดงเอาไว้อีกด้วย เเต่เดิมนั้นมีการสัณนิฐานว่า พระเจ้าอุทุมพร หรือ ขุนหลวงหาวัด เป็นผู้สร้างไว้ เมื่อครั้งที่พระองค์ออกบวช เพื่อสละราชสมบัติให้เเก่พระเชษฐา คือ พระเจ้าเอกทัศน์ กษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยา เเต่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จทอดพระเนตรพระตำหนักคำหยาด เมื่อ พ.ศ.2451 เมื่อครั้งยังทรงผนวชอยู่ ก็มีพระราชวินิจฉัยเปลี่ยนเเปลงว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยของสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ โดยพระองค์ดำริให้สร้างไว้เพื่อเป็นที่ประทับระหว่างทรงเสด็จมาเยี่ยมเยียนหัวเมืองเเทบนี้ ส่วนเรื่องพระประทับของพระเจ้าอุทุมพรเมื่อครั้งทรงผนวชนั้นก็ชื่อกันว่าทรงประทับอยู่ที่พระตำหนักคำหยาดเเห่งนี้นั่นเอง นับว่าเป็นโบราณสถานที่มีสภาพสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมอย่างมาก
วัดขุนอินทประมูล นั้นเป็นอีกสถานที่เที่ยวจังหวัดจังหวัดอ่างทองที่มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยตั้งอยู่ที่อำเภอโพธิ์ทอง โดยวัดเเห่งนี้เป็นวัดโบราณที่สร้างมาตั้งเเต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี เเละที่สำคัญนั้นเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่และ ยาวที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีความยาว 50 เมตร ซึ่งเเต่เดิมวันประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร เเต่เกิดเพลิงไหม้เเละปรักหักพัง จึงกลายเป็นองค์พระที่ประดิษฐานในที่เเจ้งเเบบนี้นั่นเอง โดยมีการสัณนิฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยเดียวกับพระนอนจักรสีห์ ที่จังหวัดสิงห์บุรี โดยองค์พระนั้นมีพุทธลักษณะที่สวยงาม พระพักตร์ยิ้มละไม ให้ความรู้สึกสงบเยือกเย็น โดยมีพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ที่เคยเสด็จมาสักการะพระนอนองค์นี้ไม่ว่าจะเป็น พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ในปี พ.ศ.2296 หรือจะเป็นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จเมื่อปี พ.ศ. 2421 เเละ 2451 ส่วน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นั้นก็ทรงเสด็จมานมัสการถึงสองครั้งคือในคราถวายผ้าพระกฐินในปี พ.ศ.2516 เเละ 2518 โดยในบริเวณของวัดเเห่งนี้ยังซากโบราณสถานตั้งอยู่อีกหลายจุด อย่างวิหารหลวงพ่อขาว ที่เหลือเพียงซากเพียงบางส่วน ส่วนที่ศาลาเอนกประสงค์ก็เป็นที่ตั้งของรูปปั้นขุนอินทประมูล เเละมีโครงกระดูกมนุษย์ที่พบในเขตวิหาร โดยพบในลักษณะที่คว่ำหน้า มือเเละเท้าถูกมัดไพล่หลัง ลักษณะเเบบนักโทษในอดีต โดยเชื่อกันว่าเป็นโครงกระดูกของขุนอินทประมูล ซึ่งมีตำนานเล่าว่าในใช้หน้าที่ซึ่งเป็นนายอาการยักยอกเงินหลวงมาสร้างพระพุทธไสยาสน์ พอพระเจ้าเเผ่นดินรับสั่งถามว่าท่านเอาเงินที่ไหนมาสร้าง ก็ไม่ยอมตอบ เพราะกลัวว่าบุญกุศลจะไม่ตกที่ตน จนต้องถูกเฆี่ยนจนตาย วัดนี้จึงได้ชื่อตามท่านมา
บ้านหุ่นเหล็ก นั้นตั้งอยู่ในอำเภอเมืองอ่างทอง นับว่าเป็นเเหล่งในการเเสดงผลงานความคิดอันสร้างสรรค์ของ นายไพโรจน์ ถนอมวงษ์ ที่ได้นำเอาบรรดาเศษเหล็กที่ไม่ได้ใช้เเล้วจากเครื่องยนต์ต่างๆ มาสร้างเป็นหุ่นยนต์ในรูปเเบบต่างๆ ที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ได้อย่างสวยงาม เเละเหมือนจริงอย่างมาก โดยเเต่ละตัวนั้นก็มีขนาดความสูง 2-4 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งมันก็มีไอเดียจากภายนตร์ดังทั้งทรานส์ฟอร์มเมอร์ส,สตาร์วอร์, เอเลี่ยน เเละมินเนี่ยม โดยเปิดกิจการมาตั้งเเต่ปี พ.ศ.2543 โดยช่วงเเรกๆ นั้นก็ทำเป็นเพียงงานอดิเรก ก่อนที่จะมีคนสนใจสั่งซื้อไปตั้งโชว์ตาม ผับ บาร์ ร้านอาหารต่างๆ จนกลายมาเป็นสิ่งค้าที่สำคัญเเละมีการส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวจังหวัดอ่างทองที่มีความน่าสนใจมาเที่ยวชมอย่างมาก
ร้านนี้มีชื่อเสียงกระฉ่อนไปหลายคุ้งน้ำ ใครได้มาชิมเป็นต้องติดใจในรสชาติของผัดไทย เพราะเส้นเล็กที่เขาใช้เส้นใหญ่กว่าร้านผัดไทยทั่วๆ ไป ปรุงรสชาติให้เสร็จสรรพตั้งแต่ตอนผัด และใช้ไข่ไก่แทนไข่เป็ด สีสันจึงน่ากิน ไม่มีกลิ่นคาว อีกทั้งยังใช้เตาถ่าน ผัดไทยจึงหอมหวนชวนกินเป็นที่สุด และที่แปลกก็คือเขาใส่มะเฟืองสุกฝานเป็นชิ้นเล็กๆ มาในจานให้กินแกล้ม เพียงได้ชิมคำแรกก็อร่อยจนวางช้อนไม่ลง
เขายังมีก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสแซบสุดๆ ให้สั่งเพิ่มความอร่อยด้วย เครื่องเครานั้นปริ่มชามจนแทบมองไม่เห็นเส้น อิ่มแล้วเดินย่อยอาหารพร้อมชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงหน้าร้าน ลมเย็นๆ เดินเพลินๆ อิ่มท้องแถมอิ่มใจ
ข้อมูลร้านอร่อย : อยู่ในวัดท้องคุ้ง ถนนสายอยุธยา-ป่าโมก อ. เมือง เปิดเวลา 08.00-15.00 น. โทร. 0-3561-2559
นอกจากบรรยากาศท้องทุ่งนาที่คุณจะได้สัมผัสแล้ว ความที่เป็นร้านอาหารทำกันเองในครอบครัว อาหารทุกจานยังเต็มไปด้วยคุณภาพ ทั้งราคาก็ถูกแสนถูก คุ้มยิ่งกว่าคุ้มเมื่อเทียบกับรสชาติอาหารอันแสนโอชะ จานแรกที่ต้องแนะนำคือเชิงปลากรายทอดกระเทียม เนื้อปลาตรงเชิงนั้นนุ่มมันเป็นพิเศษ เมื่อนำมาทอดกับกระเทียมก็ยิ่งหอมเย้ายวนชวนกิน จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟูดรสจัดหรือซอสพริกก็อร่อยทั้งนั้น
อีกจานคือปลาเค้าผัดฉ่า เนื้อปลาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน แล้วนำไปผัดกับเครื่องสมุนไพรนานาชนิด รสชาติกลมกล่อมเผ็ดกำลังดี ส่วนใครชอบความเหนียวนุ่มของเนื้อไก่บ้านต้องสั่งไก่บ้านรวนมาชิม ใส่เครื่องสมุนไพรคล้ายต้มยำ รสชาติออกเปรี้ยว-เค็ม เนื้อไก่เหนียวนุ่มเคี้ยวมัน น้ำขลุกขลิกที่ก้นจานตักมาคลุกกินกับข้าวก็ยังอร่อย ท้ายสุดขอแนะนำทอดมันปลากราย เหนียวหนึบด้วยเนื้อปลากรายแท้ๆ เคล้าเครื่อง ทอดจนสุกเหลืองน่าชิม
ข้อมูลร้านอร่อย : อยู่ก่อนถึงวัดขุนอินทประมูลราว 1 กม. อ. เมือง เปิดเวลา 10.00-21.00 น. โทร. 08-3825-3980
ร้านนี้ตกแต่งด้วยของเก่าที่เจ้าของร้านสะสมไว้ ลูกค้าเดินชมได้ระหว่างรออาหาร มีระเบียงริมน้ำตกแต่งเป็นสวนเล็กๆ ให้นั่งเล่น ประเดิมจานแรกด้วยเขียวหวานปิ้ง เชื่อว่าคุณคงไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน หน้าตาคล้ายสะเต๊ะไก่ เสิร์ฟคู่น้ำจิ้มและขนมปังปิ้ง ความอร่อยอยู่ที่เนื้อไก่ซึ่งหมักเครื่องแกงเขียวหวานจนเข้าเนื้อแล้วนำมาปิ้งให้สุกเกรียมนิดๆ
อีกจานที่พลาดไม่ได้คือปลาแม่น้ำทอดน้ำปลา มีปลาให้เลือกหลายชนิด แต่อยากแนะนำให้สั่งปลาน้ำเงิน ที่มีหน้าตาคล้ายปลาเนื้ออ่อน เขานำมาหมักน้ำปลาแล้วทอดจนเหลืองกรอบทั้งตัว กินคู่กับมะม่วงซอยปรุงด้วยน้ำมะนาว พริกขี้หนูโขลก หอมแดงซอย และถั่วลิสงป่น แซบนัวอร่อยชัวร์...ขอบอก สั่งแกงส้มชะอมกุ้งรสจัดจ้านมาชิมอีกถ้วยก็เข้าที
ข้อมูลร้านอร่อย : ริมทางหลวงหมายเลข 309 (ป่าโมก-อ่างทอง) อ. ป่าโมก เปิดเวลา 10.00-22.00 น. โทร. 0-3566-2589
จากกรุงเทพฯ สามารถไปได้ 3 เส้นทาง คือ
มีรถประจำทางปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-อ่างทอง ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ หมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th
ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com
ในตัวจังหวัดอ่างทองมีรถชนิดต่างๆ ให้บริการ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการยานพาหนะต่างๆ ได้หลาย รูปแบบตามความเหมาะสมรถสองแถว มีวิ่งบริการจากสถานีขนส่งไปยังที่ต่างๆ ในตัวเมือง นักท่องเที่ยวอาจเหมา รถสองแถวไปเที่ยวได้ทั้งในเมืองและต่างอำเภอ คิดราคาวันละ 1,000-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและการ ต่อรอง รถสามล้อเครื่องและมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จอดอยู่ตามจุดต่างๆ ในจังหวัด เช่น หน้าตลาดเทศบาล หน้าสถานีขนส่ง ค่าบริการมีทั้งแบบตกลงกันตามแต่ระยะทางและแบบเหมาจ่าย