หนองแซวมินิ-ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 1

วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน 2561

บ้านหนองแซว ตำบลลิ้นฟ้า อำเภอจตุรพัตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด

หนองแซวมินิ-ฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 1 <<

บ้านหนองแซว ตำบลลิ้นฟ้า อำเภอจตุรพัตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด

Website : http://www.patrunning.info/

ที่พักแนะะนำ

1. ฮอป อินน์ ร้อยเอ็ด (Hop Inn Roi Et) *คลิกจองที่พัก>>

เมื่อไปเยือนร้อยเอ็ด และเข้าพักที่ฮอป อินน์ ร้อยเอ็ด ซึ่งมีห้องพักคุณภาพและบริการน่าประทับใจ ท่านจะรู้สึกผ่อนคลายเสมือนอยู่บ้านตัวเอง ตัวเมืองอันน่าตื่นตาตื่นใจอยู่ห่างจากที่พักไปเพียง เนื่องจากที่พักตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ผู้เข้าพักจึงไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ของเมืองได้โดยง่าย

💰 ราคาเริ่มต้นคืนละ 405++ บาท

🌍 ที่อยู่ 377 หมู่ที่ 6 รอบเมืองซอย 5 ถ.รอบเมือง ต.เหนือเมือง, ตัวเมืองร้อยเอ็ด, ร้อยเอ็ด, ประเทศไทย, 45000

2. โรงแรมเรือนริมน้ำ (Rueanrimnam Hotel) *คลิกจองที่พัก>>

โรงแรมเรือนริมน้ำ มีทำเลที่ตั้งอันเหมาะเจาะในตัวเมืองร้อยเอ็ด และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเยี่ยมในการท่องเที่ยวสำรวจร้อยเอ็ด ที่พักตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 4.1 km ผู้เข้าพักจึงเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่หลากหลายและแหล่งท่องเที่ยวมากมายของตัวเมืองได้โดยง่าย เนื่องจากที่พักตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ผู้เข้าพักจึงไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ของเมืองได้โดยง่าย

💰 ราคาเริ่มต้นคืนละ 530++ บาท

🌍 ที่อยู่ 72 ถ.เจริญพานิชย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โทรศัพท์ 043518967, ตัวเมืองร้อยเอ็ด, ร้อยเอ็ด, ประเทศไทย, 45000

3. THE CHIC 101 HOTEL *คลิกจองที่พัก>>

THE CHIC 101 HOTEL มีทำเลที่ตั้งอันเหมาะเจาะในเสลภูมิ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเยี่ยมในการท่องเที่ยวสำรวจร้อยเอ็ด จากที่พัก ท่านสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกง่ายดายไปยังทุกที่ในเมืองที่มีชีวิตชีวานี้ ด้วยโลเคชั่นที่ยอดเยี่ยม ผู้เข้าพักจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ ของเมืองได้อย่างสะดวกง่ายดาย

💰 ราคาเริ่มต้นคืนละ 498++ บาท

🌍 ที่อยู่ 211 หมู่ 6 ตำบลกลาง อำเถอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด, เสลภูมิ, ร้อยเอ็ด, ประเทศไทย, 45120

ขอบคุณ ภาพจาก http://thai.tourismthailand.org/

วัดบูรพาภิราม เเต่เดิมชื่อว่า วัดหัวรอ ก่อนที่จะถูกยกขึ้นมาเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี โดยภายในมีความสำคัญเนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร ที่มีความสูงมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีความสูง 67 เมตร โดยที่บริเวณของฐานองค์พระพุทธรูปนั้นจะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่จัดเเสดงนิทรรศการที่มีความน่าสนใจเเละเกี่ยวข้องกับจังหวัดร้อยเอ็ด อีกทั้งวัดเเห่งนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในคำขวัญประจำจังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วย ถือว่าเป็นที่เที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ใครมาเที่ยวร้อยเอ็ดเเล้วต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมความสวยงามเเละความสำคัญของวัดเเห่งนี้ โดยวัดเเห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งเเต่เวลา 8.30 น. จนถึงเวลา 16.30 น. โดยการเดินทางมายังวัดเเห่งนี้นั้น หากคุณมาจากทางจังหวัดมหาสารคาม จะมองเห็นองค์พระพุทธรูปโดดเด่นเเต่ไกลอยู่เเล้ว นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

ขอบคุณ ภาพจาก http://thai.tourismthailand.org/

ถือว่าเป็นเเหล่งความรู้ที่จะทำให้คุณรู้จักเมืองร้อยเอ็ดดีขึ้นอย่างมาก โดยมีการจัดเเสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองร้อยเอ็ดตั้งเเต่ก่อตั้งเมืองจนถึงปัจจุบัน ป่านการจัดเเสดงที่น่าสนใจ เเต่จุดเด่นที่สุดของพิพิธภัณฑ์เเห่งนี้ก็คือการเป็นเเหล่งรวบรวมเเละจัดเเสดงศิลปหัตถกรรมอีสาน โดยเฉพาะผ้าไหมและผ้าพื้นเมือง เเละเมื่อบวกกับมีการนำเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยเข้ามาร่วมในการจัดเเสดงต่างๆ ก็ทำให้พิพิธภัณฑ์เเห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีความทันสมัยเป็นอย่างมาก เเละเป็นเเหล่งรวบรวมวัตถุโบราณจำนวนมากมายด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่เที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด ที่นักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนร้อยเอ็ดเเละอยากจะทำความรู้จักกับร้อยเอ็ดให้มากขึ้นเเล้วต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมความน่าสนใจของวัตถุโบราณต่างๆ ที่จัดเเสดงเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์เเห่งนี้ โดยที่นี่จะเปิดทุกวันตั้งเเต่เวลา 9.00 น. จนถึงเวลา 16.00 น. โดยปิดทุกวันอังคารเเละวันหยุดนักขัตฤกษ์ พร้อมกับเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมคนละ 20 บาท เเต่หากเป็นชาวต่างชาติจะอยู่ที่เรท 100 บาท

ขอบคุณ ภาพจาก http://thai.tourismthailand.org/

นั้นตั้งอยู่ที่อำเภอธวัชบุรี เป็นปราสาทหินของขอมเเบบเก่าที่มีลักษณะคล้ายกับอโรคยาศาล ตามรูปเเบบนิยมอย่างยิ่ง เเละมีความเก่าเเก่ควรค่าเเก่การมาเที่ยวชมอย่างมาก โดยประกอบเป็นด้วยกลุ่มอาคารทั้งปรางค์ประธาน, บรรณาลัย, กำแพงพร้อมซุ้มประตู และสระน้ำนอกกำแพง โดยส่วนที่สมบูรณ์ที่สุดนั้นเห็นจะเป็นในส่วนของปรางค์ประธาน ที่มีฐานบัวยอดปรางค์อยู่ตอนบน โดยมีการปรับเเต่งภูมิทัศน์ที่มีควาสวยงามเเละน่ามาเดินเที่ยวอย่างมาก โดยบริเวณโดยรอบนั้นก็จะพบกับโบราณวัตถุจำนวนหลายชิ้นด้วยกัน ที่มีการเก็บรักษาเป็นอย่างดี โดยมีทั้งทับหลังหินทราย ที่มีการจำหลักเป็นภาพบุคคลนั่งบนหลังช้างหรือวัว รวมทั้งกรอบประตู 2 ชิ้น และชิ้นส่วนบัวยอดปรางค์ มีอายุราวๆ พุทธศตวรรษที่ 18 นับว่าเป็นสถานที่เที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ดที่มีความเก่าเเก่เเละน่ามาเที่ยวชมอย่างมาก ส่วนเส้นทางในการมายังที่นี่นั้น คุณสามารถใช้เส้นทางร้อยเอ็ด-ยโสธร จนมาถึงที่ว่าการอำเภอธวัชบุรี ก็ให้เลี้ยวไปฝั่งตรงข้ามกับตัวที่ว่าการอำเภอ โดยขับต่อไประยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ก็จะถึงเเล้ว

ขอบคุณข้อมูลที่เที่ยวจาก www.thaihrhub.com/roiet/

1. โดยรถยนต์

จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านสระบุรี นครราชสีมา แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 23 ผ่าน มหาสารคาม จนถึงจังหวัดร้อยเอ็ด รวมระยะทาง 512 กิโลเมตร

2. โดยรถประจำทาง

มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-ร้อยเอ็ด ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 เว็บไซต์ www.transport.co.th ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ www.thairoute.com

3. โดยรถไฟ

จากกรุงเทพฯ ไปลงที่จังหวัดขอนแก่น แล้วต่อรถยนต์โดยสารเข้าจังหวัดร้อยเอ็ด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง มีรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงไปขอนแก่นทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690 เว็บไซต์ www.railway.co.th

4. โดยเครื่องบิน

สายการบินโซล่าร์แอร์ให้บริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ร้อยเอ็ด สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 2535 2455-6 เว็บไซต์ www.solarair.co.th