เอิ้นมาแล่น ดินแดนโซ่พิสัย ครั้งที่ 2

Facebook : โซ่พิสัยมินิมาราธอน

ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อน มีอายุประมาณ 75 ล้านปี หนึ่งเดียวของโลก เมื่อมองดูจากระยะไกล หินสามก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ ที่ประกอบด้วยพ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ ซึ่งเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อน ทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในภูสิงห์ มองเห็นผืนป่า ทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก หาดทรายแม่น้ำโขงและภูเขาเมืองปากกระดิง ประเทศลาว สวยงามเกินคำบรรยาย

ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู โดยเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของเปลือกโลก เกิดเป็นหน้าผา ถ้ำ และกลุ่มหินรูปทรงต่าง ๆ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ของภูสิงห์ จนเกิดเป็นความงดงามของธรรมชาติที่น่าสนใจ ภูสิงห์มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ ลานธรรมภูสิงห์, จุดชมวิวลานธรรม, จุดชมวิวถ้ำฤาษี, หินช้าง, หินรถไฟ, ลานหินลาย และกำแพงหินภูสิงห์ เป็นต้น เรียกได้ว่ามาเที่ยวภูสิงห์ที่เดียวเที่ยวได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ

เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง บริเวณโดยรอบภูทอกล้อมรอบด้วยทัศนียภาพที่สวยงามและเงียบสงบ และมีสะพานไม้สร้างวนขึ้นไปสู่ยอดเขารวมทั้งหมด 7 ชั้น เพื่อเป็นทางเดินขึ้นไปยังกุฏิและถ้ำที่อยู่ตามหลืบผา จากด้านบนนักท่องเที่ยวจะมองเห็นความสวยงามของภูมิประเทศเบื้องล่างได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ยิ่งถ้าในวันที่อากาศแจ่มใส อาจมองได้ไกลถึงเทือกเขาในเขตจังหวัดนครพนมเลยด้วย

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : https://travel.kapook.com

ถ้ามาร้านนี้ ได้หงายหลังนั่งชิลสบายอย่างแน่นอนค่ะ ด้วยบรรยากาศจัดเป็นซุ้มเล็กๆให้นั่งกับพื้น ท่ามกลางวิวแม่น้ำโขงโอบล้อม มีเพลงเปิดคลอฟังสบาย หลายท่านต้องชอบร้านนี้อย่างแน่นอน นอกจากบรรยากาศน่านั่งจับเข่าคุยสุดๆแล้ว อาหารก็รสชาติดีค่ะ เน้นไปทางเมนูจิ้มจุ่มและอาหารไทยรสแซ่บ ซดน้ำแกงร้อนๆในบรรยากาศลมโชยเย็นสบาย และมีความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากมีการแยกซุ้มนั่งกันชัดเจนค่ะ เมนู signature ก็ตามชื่อร้านอย่างแน่นอน “จิ้มจุ่มหมูนุ่ม” หมูนุ่มลวกในน้ำซุปเผ็ดร้อนสไตล์อิสาน ทานกับน้ำจิ้มสุดแซ่บ เคล้ากับเมนูแอลกอฮอล์ก็มีบริการ ยิ่งทำให้ครึกครื้นเข้าไปใหญ่ อาหารก็อร่อย ร้านก็น่านั่งขนาดนี้ ใครจะอดใจไหวคะ เมนูแนะนำ : จิ้มจุ่มหมู

• ตั้งอยู่ที่ 212 (ริมโขง บึงกาฬ) บึงกาฬ , เมืองบึงกาฬ , บึงกาฬ
• เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 16:30 - 23:00

ร้านนี้แม้ตัวร้านไม่ได้ติดกับแม่น้ำโขงด้วยตรง แต่บริเวณหน้าร้านก็ติดริมแม่น้ำโขงและสามารถมองเห็นวิวสวยงามได้ไม่แพ้ใครเช่นกัน ที่อยากแนะนำร้านนี้เนื่องจากเป็นร้านปลาเผาที่ค่อนข้างรสชาติดีค่ะ เนื่องจากเผากันสดๆทุกวัน ปลาก็สดมาก ตัวใหญ่เนื้อแน่น น้ำจิ้มก็รสเด็ดเปรี้ยวหวานกำลังดีค่ะ จึงทำให้ร้านลมโชยปลาเผาติด 1 ใน 5 ร้านริมโขงบรรยากาศดีและรสชาติแซ่บไปได้อย่างไม่ยากค่ะ การบริการก็เป็นกันเอง แถมราคาเป็นมิตรอีกด้วยค่ะ แนะนำว่าควรสั่งเป็นเซ็ทเมี่ยงปลาเผา เซ็ทใหญ่ ราคาไม่แพง เสิร์ฟมากับขนมจีน ผักสด ผักลวก กล้วยดิบแคบหมูและเครื่องเคียงอื่นๆไม่อั้นค่ะ คุ้มค่าสุดๆ โดยเฉพาะถ้ามากันเป็นครอบครัวใหญ่ค่ะ เมนูแนะนำ : เมี่ยงปลาเผา , ส้มตำ

• ตั้งอยู่ที่ ถนนชาญสินธุ์ บึงกาฬ , เมืองบึงกาฬ , บึงกาฬ

“Riverside บึงกาฬ” อีกหนึ่งร้านชิลติดริมแม่น้ำโขง แต่เน้นสไตล์ Bar and Restaurant ค่ะ เหมาะสำหรับกลุ่มวัยรุ่นและเพื่อนฝูงมา hang out กันหลังเลิกงาน เพราะมีเครื่องแอลกอฮอล์หลากชนิด รวมถึงเบียร์นอกและไวน์ยี่ห้อดังอีกด้วย เพลงก็เพราะฟังสบาย บางทีก็มีถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญด้วยค่ะ สำหรับอาหาร ไม่ได้มีเพียงแต่อาหารทานเล่นกับเครื่องดื่มเท่านั้น ยังมีอาหารจานหลัก รสชาติดีตามมาตรฐานอีกด้วย อาทิ ขาหมูเยอรมัน เนื้อแน่นปริมาณเยอะจุใจ หรือจะเป็นยำต่างๆก็ทำออกมาได้แซ่บดีจริงๆ ส่วนบรรยากาศร้าน แม้ไม่ได้นั่งอยู่ชิดริมโขงเลย แต่ตัวร้านก็อยู่บนถนนเส้นริมโขงที่เมื่อมองออกจากหน้าร้านแล้วก็เห็นวิวสวยงามของแม่น้ำโขงได้เช่นกัน เมนูแนะนำ : เบียร์สด , ปลากะพงทอดน้ำปลา , ขาหมูเยอรมัน

• ตั้งอยู่ที่ ถนน มีชัย บ้านเลขที่ 100 ม.1 (ร้านอยู่ติดริมโขง) บึงกาฬ , เมืองบึงกาฬ , บึงกาฬ
• เบอร์ติดต่อ 042-082082,087-2229899
• เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 16:00 - 23:00

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : https://www.wongnai.com

โดยรถประจำทาง

บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถปรับอากาศไปจังหวัดหนองคาย และต่อรถจากหนองคายเข้าบึงกาฬ สอบถามรายละเอียดได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ถนนกำแพงเพชร 2 โทร. 02 936 285 266 หรือ www.transport.co.th

โดยรถไฟ

การรถไฟแห่งประเทศไทย มีขบวนรถไฟจากกรุงเทพฯ-หนองคาย ทุกวันจากนั้นเดินทางโดยรถประจำทางเข้าจังหวัดบึงกาฬ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่หน่วยบริการเดินทาง โทร. 1690, 02 220 4334 , 02 220 4261 หรือ www.railway.co.th

โดยรถยนต์

จากกรุงเทพมหานคร ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านสระบุรี และเข้าทางหลวงหมายเลข 2 ผ่านนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ รวมระยะทาง 75 กิโลเมตร

โดยเครื่องบิน

นักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเครื่องบิน จะต้องไปลงที่สนามบินจังหวัดอุดรธานี จากนั้นต่อรถเข้าจังหวัดบึงกาฬ สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับตารางการบินได้ที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02 356 1111 หนองคาย โทร. 042 411 530 หรือ www.thaiairways.com