อุบลราชธานี ครอสคันทรี รันนิ่ง 2020

การกีฬาแห่งประเทศไทยขอเชิญชวนนักวิ่งจากทั่วประเทศ ร่วมกิจกรรมกีฬาภายในจังหวัด รายการอุบลราชธานีครอสคันทรีรันนิ่ง 2020 (อุบลราชธานี) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจเมืองกีฬาและชุมชนกีฬาในภูมิภาคแบบวิถีใหม่ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด –19 ส่งเสริมให้ประชาชนในจังหวัดที่เป็นเมืองกีฬาหันมาเล่นกีฬา และออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพ ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนในจังหวัด กระตุ้นการหมุนเวียนเศรษฐกิจในพื้นที่ เกิดการจ้างงาน และสร้างรายได้จากการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาในชุมชน

โดยการจัดกิจกรรมนนี้เป็นการแข่งขันวิ่งประเภท ครอสคันทรี่ตามภูมิประเทศ จะจัดขึ้นในพื้นที่ของ จังหวัด อุบลราชธานี ณ อำเภอโขงเจียม ตะวันออกสุดของไทย เห็นตะวันก่อนใครในประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2563 ณ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผู้ที่เข้าร่วมจะได้สัมผัสกับกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวในแบบวิถีใหม่หรือนิวนอร์มัล ในเส้นทางที่มีความเป็นธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ซึ่งพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบและเนินเขาเตี้ยๆ เป็นเส้นทางที่ไม่ยากที่จะพิชิต

วัตถุประสงค์

1. เพื่อดำเนินการจัดกิจกรรมกีฬาที่โดดเด่นและสะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ทางธรรมชาติของพื้นที่ และวิถีชุมชนในจังหวัดที่เป็นเมืองกีฬา
2. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น และสร้างรายได้จากการจัดกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวและพัฒนาต่อยอดได้อย่างยั่นยืน จากการจัดกิจกรรมแข่งขันวิ่งอุบลราชธานีครอสคันทรีรันนิ่ง 2020 (อุบลราชธานี)
3. สนับสนุนให้ชุมชนร่วมมือกันและใช้เอกลักษณ์ของชุมชน พัฒนาโอกาสในการสร้างรายได้จากกิจกรรมกีฬาในจังหวัด นอกเหนือจากอาชีพหลัก โดยร่วมกันพัฒนาชุมชนให้สามารถรองรับการจัดกิจกรรมกีฬาที่น่าสนใจ เพื่อรองรับการเป็นชุมชนกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว ในอนาคต
4. เพื่อเป็นกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพของประชาชนให้หันมาเล่นกีฬา เป็นการสร้างสุขภาพที่ดีและลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
5. เพื่อดึงดูดนักกีฬา และนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการวิ่งประเภทครอสคันทรีให้เดินทางเข้ามาแข่งขันในจังหวัดที่เป็นเมืองกีฬาเพิ่มมากขึ้น

การแบ่งประเภท

ไม่มีการแบ่งรุ่นอายุ มีแยกเฉพาะเพศชาย เพศหญิง และ มีเฉพาะรางวัลประเภททั่วไปเท่านั้น ผู้ชนะ 5 อันดับแรกจะได้เงินรางวัลและถ้วยรางวัล

เงินรางวัล

ระยะ 19.7 KM.

ระยะ 10.1 KM.

หมายเหตุ : อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม

• สิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมตามระยะทางที่เลือก 1 สิทธิ์
• ป้ายเบอร์
• ประกันอุบัติเหตุในระหว่างการทำกิจกรรม (ประกันกลุ่ม)
• เสื้อที่ระลึก
• กระเป๋าที่ระลึก
• เหรียญที่ระลึก
• เครื่องดื่มในระหว่างเส้นทาง
• อาหารและเครื่องดื่มหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม

หมายเหตุ : ท่านอาจได้รับของที่ระลึกบ้างส่วนหลังการจัดการแข่งขันทางไปรษณีย์

ตารางขนาดเสื้อที่ระลึก และ จำนวนเสื้อที่มี

ผู้จัดฯจะทำการประเมินขนาดเสื้อให้กับนักกีฬาเพื่อให้ได้รับตามกำหนดการแข่งขัน ท่านอาจได้รับเสื้อไม่ตรงกับขนาดที่ท่านเลือกเมื่อลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม

หมายเหตุ : เสื้อแต่ละขนาดมีจำนวนจำกัด นักกีฬาที่ลงทะเบียนก่อนมีสิทธิ์ก่อน

เริ่มต้นปล่อยตัว ณ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อำเภอโขงเจียม จ.อุบลราชธานี เป็นแหล่งท่องเที่ยง ทางศาสนาและวัฒนธรรม ที่ชาวบ้านชุมชนให้การเคารพสักการะ วัดนี้สร้างโดยหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ที่ถึงแม้ท่านมรณภาพแล้วแต่ร่างกายไม่เน่าเปื่อย ทางวัดจึงยังเก็บรักษาร่างไว้ให้ พุทธศาสนิกชนได้สักการะ มีความโดดเด่นด้วยฆ้องขนาดใหญ่ เจดีย์ สวนไม้ดอกไม้ประดับ และจุดชมวิวแม่น้ำโขง แม่น้ำมูล

จากนั้นจะพานักวิ่งลงบันไดพญานาค ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งจะมองเห็นทัศนียภาพแม่น้ำโขงและอำเภอโขงเจียม เลี้ยวขวามุ่งสู่สะพานข้ามแม่น้ำมูล จากจุดนี้เราจะมองเห็นจุดบรรจบกันของแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขง เกิดเป็นแม่น้ำสองสีที่มีชื่อเรียกกันว่า "โขงสีปูนมูลสีคราม "

จากนั้นเส้นทางจะตัดเข้าสู่อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ตามเส้นทางเดินโบราณของชาวบ้าน ตัดขึ้นสู่ผาผึ้ง จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นไกลไปถึงตัวอำเภอและแม่น้ำโขง

จากผาผึ้งเราจะใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติมุ่งสู่แก่งตะนะ จุดไฮไลต์สำคัญของอุทยานฯ เป็นที่มาของชื่อของอุทยานแก่งนี้

อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ตั้งอยู่ในท้องที่ อำเภอโขงเจียม และอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี สภาพ พื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบและเนินเขาเตี้ยๆ โดยมียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด ความสูงประมาณ 543 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่านตามแนวเขตทางด้านทิศเหนือไปออกประเทศลาว บริเวณแก่งตะนะจะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึก อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง จึงทำให้มีปลาอาศัยอยู่ชุกชุม ตรงกลางมีโขดหินขนาดใหญ่เป็นเกาะกลาง สำหรับระยะ 19 km เราจะมุ่งหน้าไปกลับตัวที่บริเวณเขื่อนปากมูล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของอำเภอโขงเจียม

จากนั้นเราจะพาไปชมบริเวณจุดที่ค้นพบหลักศิลาจารึกปากลำโดมน้อย

  หลักศิลาจารึกเจ้าชายจิตรเสน พบเมื่อ วันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ริมฝั่งแม่น้ำมูล ปากลำโดมน้อย ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ลักษณะเป็นแท่งหินทรายรูปเสมา ขนาดกว้าง ๓๘.๘๐ ซม. สูง ๑๔๗ ซม. หนา ๓๗.๗ ซม. มีอักษรปัลลวะ สันสกฤต จำนวนด้าน ๑ ด้าน มี ๖ บรรทัด ข้อความในจารึก กล่าวถึงพระเจ้าจิตรเสน กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทรงได้ชัยชนะเหนือกัมพูประเทศ และได้เฉลิมพระนามว่า “ศรีมเหนทรวรมัน” หรือพระเจ้ามเหนทรวรมัน กล่าวถึงการสร้างพระศิวลึงค์ อีกทั้งโปรดให้สร้างรูปเคารพต่างๆ ในลัทธิไศวนิกายไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะของพระองค์ หลักศิลาจารึกจึงเป็นหลักฐานอย่างดีว่า อารยธรรมแถบลุ่มแม่น้ำชี และลุ่มแม่น้ำมูลในระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๑ - ๑๒

เส้นทางช่วงสุดท้ายเราจะวิ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผ่านแนวหน้าผา ภูมิประเทศแปลกตา ในแนวป่าโปร่งสลับเนินเขาเบาๆ นำกลับไปสู่เส้นชัย ณ. วัดถ้ำคูหาสวรรค์

1. ทุกท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมภายในงาน ต้องผ่านการคัดกรอง ตามมารตราการการป้องภัยการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19
2. ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านต้องสวมใส่หน้ากากเข้ามาในบริเวณงาน และพยายามเว้นระยะห่างไม่จับกลุ่มคุยทักทายกันในบริเวณงาน
3. ท่านต้องวิ่งไปให้ถึงที่หมายในเวลาที่กำหนด และศึกษาเส้นทางก่อนการแข่งขันให้เรียบร้อย
4. สามารถเข้าบันทึกภาพได้แต่ต้องลงทะเบียนแสดงความจำนงล่วงหน้าเท่านั้น
5. ทางผู้จัดมีจุดให้น้ำตามจุดในเส้นทางการแข่งขัน และ มีอาหารเครื่องดื่มหลังการแข่งขัน
6. ผู้สมัครที่ลงทะเบียนทุกท่านมีประกันภัยกลุ่มให้ หากเกิดอุบัติเหตุ ในระหว่างการวิ่ง ทำการรักษา ณ สถานพยาบาลจังหวัด ในกรณีต้องทำการรักษาต่อเนื่อง และเลือกสถานพยาบาลเอง ผู้ประสพเหตุต้องสำรองจ่ายเอง แล้วนำมาเคลมค่ารักษา
7. หากเกิดอุบัติเหตุทำให้เกิดความเสียหาย ทั้งทางร่างกายและทรัพย์สิน ทางผู้จัดขอไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นในกรณีที่นักปั่นไม่ได้ลงทะเบียน
8. กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่อนุญาตให้มีการซื้อขายสิทธิ์กันอย่างเด็ดขาด
9. หากผู้จัดมีความจำเป็นต้องยกเลิกการแข่งขัน ทางนักวิ่งไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ทุกกรณี
10. นักวิ่งที่ได้รับรางวัลจะต้องรายงานตัวภายใน 30 นาที หลังจากทราบผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
11. นักวิ่งที่ได้รับรางวัลจะต้องแสดงบัตรประชาชนหรือPassport มาแสดงเพื่อขอรับรางวัล
12. หากนักวิ่งไม่เห็นด้วยกับผลการตัดสิ้นจะต้องยื่นคำร้องและวางเงินประกันจำนวน 1,000 บาท
13. ผลการตัดสินจากผู้ควบคุมการแข่งขันถือเป็นที่สิ้นสุด

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563

• เวลา : 14.00 - 18.00 น.
• สถานที่ : วัดถ้ำคูหาสวรรค์
• Google Map : https://goo.gl/maps/HJDr4t1tguEQiQiY6

โปรดนำเอกสารต่อไปนี้มาแสดงเพื่อรับอุปกรณ์การแข่งขัน :

• หมายเลขการสมัคร Tracking Number หรือบาร์โค้ด (อีเมล์ หรือ ตรวจสอบที่นี่)
• บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง

ผู้เข้าร่วมที่ไม่สามารถมารับอุปกรณ์แข่งขันด้วยตนเองได้ในช่วงวันที่กำหนด สามารถมอบอำนาจให้ผู้แทนมารับแทนได้ โดยตัวแทนที่จะต้องเตรียมเอกสารในวันที่มารับดังต่อไปนี้ :

• หมายเลขการสมัคร Tracking Number หรือบาร์โค้ด (อีเมล์ หรือ ตรวจสอบที่นี่)
• บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง ของผู้รับแทน
• สำเนาบัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง ของผู้เข้าร่วม

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563

วัดถ้ำคูหาสวรรค์

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2563

วัดถ้ำคูหาสวรรค์

Facebook Page : Ubon cross country running 2020

สอบถามข้อมูลทั่วไป (ผู้จัดการแข่งขัน)

• Call : +66 (0)6 2565 1177

สอบถามเกี่ยวกับการสมัคร (รันลา)

• Line@ : https://lin.ee/BTOwTuz
• Call : +66 (0)8 1818 6155

(จันทร์-ศุกร์ 10:00 - 17:00)